การคัดกรอง การบังคับใช้กฎของ Snapchat และการอุทธรณ์
ซีรีส์คำอธิบายคู่มือของชุมชน
อัปเดต: พฤษภาคม 2024
ภายใน Snapchat เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาความปลอดภัย ในขณะเดียวกันให้ความเคารพในผลประโยชน์ของความเป็นส่วนตัวแก่ชุมชนของเรา เราจะใช้แนวทางที่สมดุลและพิจารณาภายใต้พื้นฐานของความเสี่ยงในการจัดการกับอันตราย ที่ประกอบด้วยการคัดกรองเนื้อหาที่โปร่งใส มีการบังคับใช้กฎอย่างสม่ำเสมอและเท่าเทียม และมีการสื่อสารที่ชัดเจน เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบของเราในการใช้นโยบายอย่างยุติธรรม
การคัดกรองเนื้อหา
เราได้ออกแบบ Snapchat ด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัย และการออกแบบนี้คือหัวใจหลักที่จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเนื้อหาที่เป็นอันตราย Snapchat นั้นไม่มีการเสนอฟีดข่าวแบบเปิดที่ผู้เผยแพร่หรือบุคคลใดๆ ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบนั้นมีโอกาสได้เผยแพร่เนื้อหาที่แสดงความเกลียดชัง เนื้อหาที่ผิด หรือที่มีความรุนแรง
นอกเหนือจากการออกแบบที่รักษาความปลอดภัยแล้ว เรายังผสมผสานการใช้เครื่องมืออัตโนมัติกับการตรวจสอบของมนุษย์เพื่อคัดกรองเนื้อหาสาธารณะที่ปรากฏ (เช่น Spotlight เรื่องราวสาธารณะ และแผนที่) รวมถึงเครื่องมือการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) และทีมงานเฉพาะทางที่เป็นคนจริงๆ เพื่อตรวจสอบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในโพสต์สาธารณะ
ตัวอย่างเช่น Spotlight ที่ผู้สร้างเนื้อหานั้นสามารถส่งวิดีโอที่สร้างสรรค์และให้ความบันเทิง เพื่อแบ่งปันแก่ชุมชน Snapchat ในวงกว้าง เนื้อหาทั้งหมดจะถูกตรวจสอบโดยอัตโนมัติโดยปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เป็นอันดันแรกก่อนที่จะได้รับการเผยแพร่ใดๆ ต่อไป เมื่อเนื้อหานั้นได้รับการรับชมมากขึ้น เนื้อหาดังกล่าวจะถูกตรวจสอบโดยผู้คัดกรองที่เป็นมนุษย์ ก่อนที่จะมีโอกาสเผยแพร่ไปถึงผู้ชมในวงกว้าง วิธีการคัดกรองเนื้อหา Spotlight นี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด คำพูดที่แสดงความเกลียดชัง หรือเนื้อหาที่เป็นอันตรายอื่นๆ และเพิ่มการส่งเสริมความสนุก ความรู้สึกที่เป็นแง่บวก และประสบการณ์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
เช่นเดียวกับเนื้อหาบรรณาธิการที่ผลิตโดยบริษัทสื่อต่างๆ เช่น เรื่องราวของผู้เผยแพร่หรือโชว์นั้นจะอยู่ภายใต้คู่มือเนื้อหา ซึ่งมีการระบุถึงการห้ามเผยแพร่เนื้อหาที่ผิด คำพูดที่แสดงถึงความเกลียดชัง ทฤษฎีสมคบคิด ความรุนแรง และเนื้อหาที่เป็นอันตรายประเภทอื่นๆ รักษาให้พาร์ทเนอร์เหล่านี้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่ยกระดับความปลอดภัยและความซื่อสัตย์ นอกจากนี้ เรายังใช้เทคโนโลยีการตรวจจับอันตรายเชิงรุกที่ปรากฏบนพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ที่มีการรับชมสูง เช่น เรื่องราว เพื่อช่วยระบุเนื้อหาที่เป็นอันตราย และเราใช้การกรองคำหลักเพื่อช่วยป้องกันเนื้อหาที่อันตราย (เช่น บัญชีที่พยายามโฆษณายาที่ผิดกฎหมายหรือเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอื่นๆ) ไม่ให้สามารถปรากฏได้บนผลการค้นหา
ทั่วพื้นที่ที่แสดงผลิตภัณฑ์ของเราทั้งหมด ผู้ใช้สามารถรายงานบัญชีและเนื้อหาที่อาจละเมิดกฎตามคู่มือของชุมชนของเรา เราทำให้การส่งรายงานของ Snapchatter ที่เป็นความลับไปยังทีมความหน้าเชื่อถือและความปลอดภัยของเราโดยตรงได้อย่างง่ายดาย ที่ผ่านการฝึกอบรมเพื่อประเมินรายงานที่ส่งเข้ามา ทำการดำเนินการตามนโยบายของเรา และแจ้งแก่บุคคลที่ส่งรายงานถึงผลลัพธ์ ซึ่งโดยทั่วไปเป็นเวลาภายในไม่กี่ชั่วโมง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรายงานเนื้อหาหรือพฤติกรรมที่เป็นอันตราย โปรดเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลนี้บนเว็บไซต์สนับสนุนของเรา คุณยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามในการระบุและลบเนื้อหาที่เป็นอันตราย และส่งเสริมความเป็นอยู่และความปลอดภัยบน Snapchat ที่นี่
โปรดอย่าใช้ระบบการรายงานของ Snap ผิดวิธีโดยการรายงานซ้ำๆ รายงานที่ไม่มีมูลเกี่ยวกับเนื้อหาหรือบัญชีของผู้อื่น หรือรายงานเนื้อหาหรือบัญชีซ้ำ ๆ ที่ได้รับอนุญาตภายใต้คู่มือของชุมชนของเราหากคุณส่งรายงานหลายฉบับซึ่งเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมนี้ เราจะเตือนให้คุณทราบก่อน แต่หากคุณยังทำเช่นนั้นต่อไป เราจะลดลำดับความสำคัญในการตรวจสอบรายงานจากคุณเป็นเวลา 90 วัน
การบังคับใช้นโยบาย ที่ Snap
การที่นโยบายของเรานั้นส่งเสริมการบังคับใช้กฎที่มีความสม่ำเสมอและยุติธรรมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเราที่ Snap ด้วยเหตุนี้ เราจึงพิจารณาถึงการผสมผสานของปัจจัยที่หลากหลาย ซึ่งจะกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมสำหรับการละเมิดคู่มือของชุมชน ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือระดับความรุนแรงของอันตรายและประวัติการละเมิดครั้งก่อนหน้าของ Snapchatter
เราใช้แนวทางที่อิงตามพื้นฐานของความเสี่ยงเพื่อแยกอันตรายที่ร้ายแรงที่สุดจากการละเมิดประเภทอื่นๆ ที่อาจมีระดับความรุนแรงที่ไม่เท่ากัน สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎต่ออันตรายที่รุนแรง และการละเมิดประเภทอื่นๆ ที่เข้าข่าย เราได้จัดทำข้อมูลลงในแหล่งข้อมูลนี้
บัญชีที่เราได้พิจารณาที่มักทำการละเมิดคู่มือของชุมชน หรือส่งเสริมอันตรายที่ร้ายแรงนั้นจะถูกระงับโดยทันที ตัวอย่างรวมถึงบัญชีที่เกี่ยวข้องในการกลั่นแกล้งหรือการก่อกวน การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น การฉ้อโกง การส่งเสริมกิจกรรมของกลุ่มหัวรุนแรงหรือการก่อการร้าย หรือการกระทำอื่นใดโดยใช้ Snap เพื่อมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
สำหรับการละเมิดอื่น ๆ ของคู่มือของชุมชนนั้น โดยทั่วไปแล้ว Snap จะมี 3 ขั้นตอนในการบังคับใช้กฎ:
ขั้นตอนที่หนึ่ง: เนื้อหาที่ละเมิดจะถูกลบออก
ขั้นตอนที่สอง: Snapchatter จะได้รับการแจ้งเตือนโดยระบุว่าเขาได้ละเมิดคู่มือของชุมชน ซึ่งเนื้อหาจะถูกลบออกไป และการละเมิดซ้ำนั้นจะส่งผลให้มีการบังคับใช้กฎเพิ่มเติม รวมถึงการปิดการใช้งานบัญชี
ขั้นตอนที่สาม: ทีมของเราจะบันทึกรอบการตักเตือนต่อบัญชีของ Snapchatter
รอบการตักเตือนจะสร้างบันทึกการละเมิดของ Snapchatter เป็นรายบุคคล รอบการตักเตือนทุกครั้งจะมาพร้อมกับการแจ้งแก่ Snapchatter หาก Snapchatter ได้รับการตักเตือนมากเกินไปในช่วงเวลาที่กำหนด บัญชีของ Snapchatter จะถูกปิดการใช้งาน
ระบบการตักเตือนนี้จะช่วยให้มั่นใจว่า Snap ได้บังคับใช้นโยบายอย่างสม่ำเสมอ และในลักษณะที่ให้คำตักเตือนและให้ความรู้แก่ผู้ใช้ที่ละเมิดคู่มือของชุมชน เป้าหมายหลักของนโยบายของเราคือการรับรองว่าทุกคนจะสามารถเพลิดเพลินกับการใช้ Snapchat ในรูปแบบที่สะท้อนถึงคุณค่าและภารกิจของเรา เราได้พัฒนากรอบการทำงานของการบังคับใช้กฎนี้ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าวในวงกว้าง
ขั้นตอนการแจ้งให้ทราบและการยื่นอุทธรณ์
เพื่อให้แน่ใจว่า Snapchatter มีความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าทำไมจึงมีการดำเนินการต่อบัญชีของตน และให้โอกาสที่จะโต้แย้งผลการบังคับใช้กฎ เราได้จัดทำกระบวนการแจ้งให้ทราบและการยื่นอุทธรณ์ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชุมชนของเรา และในขณะเดียวกันปกป้องสิทธิ์ของ Snapchatter
เพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุใดจึงมีการดำเนินการบังคับใช้กฎ โปรดทราบว่าเรามีการอ้างอิงจากคู่มือของชุมชนและข้อกำหนดการให้บริการของเราเมื่อเราประเมินว่าจะบังคับใช้บทลงโทษกับบัญชีหรือไม่ และอ้างอิงคู่มือของชุมชน ข้อกำหนดการให้บริการ และคู่มือเนื้อหาสำหรับการแนะนำการปฏิบัติที่อนุญาตในการคัดกรอง Snap ที่เผยแพร่ไปยัง Discover และ Spotlight
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการยื่นอุทธรณ์ของเรา เราได้จัดทำบทความสนับสนุนที่การยื่นอุทธรณ์สำหรับบัญชีและการยื่นอุทธรณ์สำหรับเนื้อหา
เมื่อ Snapchat อนุญาตการอุทธรณ์สำหรับการล็อกบัญชี, Snapchatter จะสามารถกลับเข้าบัญชีได้อีกครั้ง ไม่ว่าผลการยื่นอุทธรณ์จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม เราจะแจ้งฝ่ายที่ทำการยื่นอุทธรณ์ให้ทราบถึงการตัดสินใจของเราในเวลาที่มีความเหมาะสม